ประเภทของสารเคมีอันตราย


ประเภทของสารเคมีอันตราย

อันตรายทางด้านเคมี
ผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องการสารเคมีจะต้องตระหนักอยู่เสมอว่าสารเคมีที่เกี่ยวข้องนั้นอาจมีอันตรายอย่างเฉียบพลัน อันเกิดจากสารระเบิด ไฟไหม้ การระคายเคืองต่าง ๆ จากพิษของสารเคมี รวมทั้งผลที่จะเกิดขึ้นต่อสุขภาพในระยะยาว ดังนั้นผู้ทำงานจะต้องเข้าในถึงพิษภัยของสารที่ตัวเองเกี่ยวข้อง อันตรายในด้านเคมีนี้จะกล่าวถึง ประเภทของสารเคมี อันตรายจากสารเคมีในรูปแบบต่าง ๆ รวมทั้งผลที่มีต่อสุขภาพ ข้อมูลและสัญลักษณ์ที่พึงทราบและการกู้ภัยเมื่อเกิด เหตุการณ์ฉุกเฉิน
การจำแนกประเภทของสารเคมี และวัตถุอันตราย
ตลอดเวลาที่ผ่านมาได้มีความพยายามที่จะวางมาตรฐานต่าง ๆ ขึ้น เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ และสิ่งแวดล้อมมาตามลำดับ จนปี พ.ศ. 2499 คณะผู้เชี่ยวชาญด้านขนส่งสินค้าอันตราย ซึ่งตั้งขึ้นโดย Economic and Social Council. ของ United Nations. ได้กำหนดมาตรฐานเบื้องต้นในการขนส่งวัตถุอันตรายขึ้นโดยแบ่งวัตถุอันตรายออกเป็น 9 ประเภท เพื่อประโยชน์ในการขนส่ง การใช้และการเก็บวัตถุอันตราย ให้มีความปลอดภัย ดังนี้
ประเภท 1 วัตถุระเบิด (Explosives) เป็นวัตถุที่ระเบิดลุกติดไฟได้ เมื่อ ได้รับความร้อน ประกายไฟ เปลวไฟ หรือเมื่อได้รับการกระทบกระเทือน การเสียดสี หรือถูกกระทำด้วยการจุดระเบิด แบ่งเป็น 6 ประเภทย่อย ตามลักษณะ และความเร็วของการระเบิด ดังนี้
ประเภทย่อย 1.1 หมายถึง สารหรือสิ่งของที่เกิดระเบิดได้ในทุกส่วน โดยระเบิดรุนแรงฉับพลัน
ประเภทย่อย 1.2 หมายถึง สารหรือสิ่งของที่อาจก่ออันตราย โดยการกระจายของสะเก็ดระเบิด แต่ไม่เกิดการระเบิดตูมทั้งหมดในทุกส่วนอย่างรวดเร็วฉับพลัน
ประเภทย่อย 1.3 หมายถึง วัตถุที่มีความเสี่ยงในการเกิดเพลิงไหม้ และมีอันตรายจากการระเบิดบ้างเล็กน้อย หรือมีอันตรายจากการกระจายของสะเก็ดระเบิดบ้างเล็กน้อย อย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่างโดยไม่เกิดระเบิดทั้งหมดอย่างรวดเร็วฉับพลัน
ประเภทย่อย 1.4 หมายถึง วัตถุที่ไม่อันตรายมากนักในการติดไฟหรือกระทบกระแทก แต่จะมีผลต่อภาชนะบรรจุเป็นส่วนใหญ่

ประเภทย่อย 1.5 หมายถึง สารที่ไม่มีความไวในการระเบิด โอกาสจุดระเบิดมีน้อย หากระเบิดจะเกิดความเสียหายแบบหมดทุกส่วน
ประเภทย่อย 1.6 เป็นสิ่งของที่ไม่มีความไวต่อการระเบิดเลย และไม่มีอันตรายแบบการระเบิดทุกส่วน
ประเภท 2 ก๊าซ หมายถึง สารที่มีความดันไอมากกว่า 300 kPa ที่อุณหภูมิ 50oC เป็นวัตถุอัดในสถานะก๊าซภายใต้ความดัน แบ่งได้เป็น 3 ประเภทย่อย คือ
ประเภทย่อย 2.1 ก๊าซเหลวอัดภายใต้ความดัน ซึ่งอาจเป็นก๊าซไวไฟ ทั้งหลายซึ่งอาจเกิดระเบิดและอัคคีภัย การสลายตัวของก๊าซให้ก๊าซพิษ หรือเมื่อ รั่วไหลติดไฟแล้วให้ก๊าซพิษ เช่น อะเซทิลิน โบรโมไตรฟลูออโรเอธิลีน บิวทา-ไดอีน อีเทน เอธิลีน ไฮโดรเจน และมีเทน เป็นต้น
ประเภทย่อย 2.2 เป็นก๊าซไม่มีพิษและไม่ไวไฟ อาจระเบิดได้ หากเกิดรั่วไหลออกมาจะทำให้หายใจไม่ออก เพราะก๊าซออกซิเจนในอากาศเจือจางลง หรือก๊าซที่มีสมบัติเป็นตัวออกซิไดซ์ ซึ่งเมื่อสัมผัสกับออกซิเจนแล้ว เกิดเผาไหม้หรือช่วยให้เกิดเผาไหม้ได้ เช่น อาร์กอน ไนโตรเจน ฮีเลียม คาร์บอนไดออกไซด์ คลอโรไดฟลูออโรมีเทน
ประเภทย่อย 2.3 เป็นก๊าซมีพิษ ระเบิดได้และให้ก๊าซพิษ หากเผาไหม้อาจให้ก๊าซพิษชนิดอื่นอีกได้ เช่น คลอรีน โบรอนไตรฟลูออไรด์
ประเภท 3 ของเหลวไวไฟ เป็นของเหลวหรือของเหลวผสมที่ให้ไอระเหยที่ไวไฟ สามารถติดไฟได้โดยมีจุดวาบไฟ (flash point) ที่อุณหภูมิต่ำกว่า 60.5 oC ส่วนใหญ่อยู่ในรูปของสี ทินเนอร์ แลกเกอร์ น้ำมันวานิช และตัวทำละลาย ต่าง ๆ แบ่งออกเป็น 3 ประเภทย่อยดังนี้
ประเภทย่อย 3.1 จำพวกที่มีจุดวาบไฟต่ำกว่า -18 oC
ประเภทย่อย 3.2 จำพวกที่มีจุดวาบไฟสูงปานกลาง (-18 oC ถึง 23 oC)
ประเภทย่อย 3.3 จำพวกที่มีจุดวาบไฟสูงกว่า 23 oC ถึง 60.5 oC
ประเภท 4 ของแข็งไวไฟ หรือวัตถุที่อาจลุกไหม้ได้เอง หรือวัตถุที่สัมผัสกับน้ำแล้วให้ก๊าซไวไฟ แบ่งเป็น 3 ประเภทย่อย ดังนี้
ประเภทย่อย 4.1 ของแข็งไวไฟ หมายถึง ของแข็งที่อาจลุกไหม้ได้ง่ายระหว่างขนส่ง อันเนื่องมาจากการเสียดสีของสารหรือเสียดสีกับสารข้างเคียง เช่น ผงกำมะถัน ฟอสฟอรัสไตรซัลไฟด์
ประเภทย่อย 4.2 สารที่มีความเสี่ยงต่อการลุกไหม้เองได้ หมายถึงสารที่อาจร้อนขึ้นมาแล้วลุกไหม้ได้เอง ในระหว่างขนส่งหรือสารที่สัมผัสกับอากาศแล้วทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นจนติดไฟได้ เช่น ฟอสฟอรัสขาว
ประเภทย่อย 4.3 สารที่ไวไฟเมื่อสัมผัสกับน้ำ หรือให้ก๊าซที่ไวไฟในปริมาณที่เป็นอันตรายได้ เช่น โลหะโซเดียม โพแทสเซียม และแคลเซียมคาร์ไบด์
ประเภท 5 สารออกซิไดซ์ และออร์แกนิกเปอร์ออกไซด์ ประเภทนี้แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทย่อย
ประเภทย่อย 5.1 สารออกซิไดซ์ส่วนใหญ่เป็นสารที่ตัวเองไม่ติดไฟ แต่ช่วยให้ไฟติดได้โดยการปล่อยออกซิเจนออกมา เช่น อะลูมิเนียมไนเตรท แอมโมเนียมไนเตรท โพแทสเซียมคลอเรท เป็นต้น
ประเภทย่อย 5.2 สารออร์แกนิกเปอร์ออกไซด์ เป็นสารไม่เสถียร เมื่อถูกความร้อนจะเกิดการสลายตัวที่รุนแรง ความรุนแรงจะมากขึ้นเรื่อย ๆ จนอาจเกิดระเบิดได้
ประเภท 6 วัตถุมีพิษและแพร่เชื้อได้ ประเภทนี้แบ่งออกเป็น 2 ประเภทย่อย คือ
ประเภทย่อย 6.1 วัตถุมีพิษ หมายถึง สารพิษที่เป็นอันตรายถึงชีวิต หรือเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น อาร์เซนิกไตรออกไซด์ แบเรียมไซยาไนด์ ไดคลอโรมีเทน เป็นต้น
ประเภทย่อย 6.2 วัตถุแพร่เชื้อได้ หมายถึง วัตถุที่มีส่วนประกอบของเชื้อโรค หรือสิ่งที่ทำให้เกิดโรค แบคทีเรีย พยาธิ เชื้อรา ฯลฯ
ประเภท 7 วัตถุกัมมันตรังสี เป็นวัตถุที่สลายตัวให้กัมมันตภาพรังสีออกมาเกิน 0.002 ไมโครคูรีต่อน้ำหนักสาร 1 กรัม ดังได้กล่าวมาแล้วในตอนต้น
ประเภท 8 สารกัดกร่อน เป็นสารที่มีสมบัติกัดกร่อน ทำลายเนื้อเยื่อหรือทำให้ระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ หรือต่อนัยน์ตา เช่น กรดซัลฟิวริก กรดไนตริก กรดไฮโดรคลอริก กรดฟอสฟอริก โซเดียมไฮดรอกไซด์ เป็นต้น
ประเภท 9 วัตถุอันตรายอื่น ที่อยู่นอกเหนือทั้ง 8 ประเภท ดังกล่าว เช่น แอสเบสตอส สังกะสีไฮโดรซัลไฟต์ พีซีบี (PCBs) เป็นต้น
อ้างอิง : https://bit.ly/2AAZwJT

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม